ปลดล็อกการทำงาน DBaaS ขึ้นอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ลับของ OpenStack Trove
งาน OpenInfra Summit Asia 24 ที่ผ่านมา NIPA Cloud ได้นำเสนอโซลูชันที่น่าจับตาสำหรับผู้ใช้บริการคลาวด์ นั่นคือ OpenStack Trove ซึ่งเป็นบริการ Database as a Service (DBaaS) บน OpenStack ที่ช่วยจัดการโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่ซับซ้อนให้สามารถใช้งานฐานข้อมูลได้ง่ายขึ้น ด้วยโซลูชัน DBaaS ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกับระบบฐานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
NIPA Cloud ยังได้พัฒนา NIPA Cloud Space ที่รองรับบริการฐานข้อมูล SQL พร้อมฟีเจอร์พิเศษต่อยอดจาก OpenStack Trove เพื่อให้เข้าถึงบริการ DBaaS ได้อย่างครอบคลุม ในบทความนี้มีการรวบรวมเนื้อหาของหัวข้อ OpenStack Trove’s Hidden Feature for DBaaS ฟีเจอร์ลับที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานของคลาวด์
ระบบโครงสร้างการทำงานของ Trove
OpenStack Trove เป็นเฟรมเวิร์กที่ออกแบบมาเพื่อบริการ DBaaS สามารถจัดการฐานข้อมูลได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การสำรองข้อมูล การติดตั้ง การอัปเกรด ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย โครงสร้างหลักของ Trove ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ API Connector สำหรับเชื่อมต่อกับ API, Task Manager สำหรับจัดการคำสั่ง และ Guest Agent สำหรับดูแลฐานข้อมูลภายในระบบ ทั้งหมดนี้ถูกเชื่อมโยงกับบริการหลักของ OpenStack เช่น Nova, Cinder และ Neutron ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ในการจัดการ Trove Module
Trove มีคุณสมบัติน่าสนใจซ่อนอยู่ นั่นคือ Trove Module Management แม้ฟีเจอร์นี้ยังไม่มีระบุอยู่ในเอกสารของ OpenStack แต่ทีม NIPA Cloud พบว่าระบบการทำงานของ Trove สามารถเพิ่มและปรับแต่งฟังก์ชันได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างฐานข้อมูลใหม่ เพียงเพิ่มเติมฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การตรวจสอบ (Monitoring) การวิเคราะห์ (Analytics) ไปยังฐานข้อมูลที่ให้บริการ DBaaS ให้จัดการระบบฐานข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น
ยกระดับการตรวจสอบประสิทธิภาพของฐานข้อมูลด้วย Feature for Monitoring
การตรวจสอบประสิทธิภาพฐานข้อมูลเป็นฟังก์ชันสำคัญในบริการ DBaaS มีการรวมกับ Percona Monitoring and Management (PMM) เครื่องมือ Open Source ที่ออกแบบมาเพื่อการตรวจสอบและจัดการฐานข้อมูล PMM ช่วยวิเคราะห์การ Query Analysis ให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของฐานข้อมูลเองได้
กระบวนการนี้ใช้ Trove Module Management เพื่อติดตั้ง PMM Client บนฐานข้อมูลเชื่อมต่อเข้ากับ PMM Server แสดงผลแบบเรียลไทม์ผ่านแดชบอร์ดที่สามารถใช้งานได้ทันที ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องตั้งค่าระบบเพิ่มเติม โดยสามารถตรวจสอบสถานะของฐานข้อมูลได้อย่างง่ายดาย
ค้นหาบริการและการสำรองข้อมูลด้วย Feature for Service Discovery
Consul ได้พัฒนาการค้นหาบริการ (Service Discovery) และการตรวจสอบสุขภาพของระบบ ช่วยในการควบคุมการเชื่อมต่อไปยังฐานข้อมูลแม้มีการเปลี่ยนแปลงในระบบเครือข่าย ด้วยความสามารถของ Consul ในการทำ Load Balancing ทำให้จัดการฐานข้อมูลแบบ Master และ Replica มีประสิทธิภาพ
Trove Module Management จะทำการลงทะเบียนอินสแตนซ์ฐานข้อมูลเข้ากับ Consul และจัดการ Failover โดยไม่ต้องปรับแก้การตั้งค่า เพื่อให้รองรับการใช้งานฐานข้อมูล Standalone หรือ Clustered ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด
สรุป
คุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ของ Trove Module Management ได้ขยายขอบเขตการให้บริการ DBaaS ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ เช่น การตรวจสอบแบบ Real-Time หรือการเชื่อมต่อที่พร้อมใช้งานสูง มีเป้าหมายมุ่งเน้นพัฒนาระบบให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในอนาคตอาจมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การ Failover อัตโนมัติ การฟื้นฟูระบบอัตโนมัติ และการจัดการฐานข้อมูลข้ามเขตความพร้อมใช้งาน (Multi-Availability Zone) เพื่อเพิ่มความสามารถในการใช้งานในระดับองค์กรอีกด้วย
We—as a team of Thai people—are assured that Thai cloud is the absolute answer for driving your business in the digital era.