ส่องแนวโน้มและสถิติตลาดคลาวด์โลก พร้อมกลยุทธ์การเติบโตในอุตสาหกรรมขนาดแสนล้านเหรียญ โดย Mark Collier
ณ งานประชุมสุดยอดระดับโลก OpenInfra Summit Berlin 2022 กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี วันที่ 7 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอ keynote เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในวงการคลาวด์ทั่วโลกให้กับผู้เข้าร่วมงานได้รับฟัง หนึ่งในเนื้อหาที่สำคัญและไม่ควรพลาดคือสถิติของอุตสาหกรรมคลาวด์ในปัจจุบัน แนวโน้มของตลาด และกลยุทธ์การเติบโตในอนาคต เนื้อหาดังกล่าวบรรยายโดย Mark Collier, Chief Operating Officer (COO), OpenInfra Foundation ในหัวข้อ “Combining Forces: How the OpenInfra Foundation is Tackling a Trillion Dollar Industry by Mark Collier” ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
NIPA Cloud จึงขอชวนทุกท่านมาร่วมรับรู้และทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ไปด้วยกัน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ว่าตลาดคลาวด์นั้นไม่เพียงแต่เป็นตลาดขนาดใหญ่ระดับแสนล้านเหรียญ แต่ยังเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจในอนาคตอันใกล้ หากพร้อมแล้ว ก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามาร์กพูดถึงประเด็นอะไรบ้าง
มาร์กเปิดประเด็นด้วยการยกสถิติว่า “95% of the world’s IT spend is on premises and not in the cloud” กล่าวคือ การใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกนั้นยังอยู่ในรูปแบบ on premises ถึง 95% นั่นหมายความว่าตลาดคลาวด์นั้นยังนับเป็นตลาดส่วนน้อยที่ยังมีการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป สถิตินี้อ้างอิงจาก Andy Jassy, CEO ของผู้ให้บริการคลาวด์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Amazon ที่กล่าวไว้ใน CNBC เมื่อเดือนเมษายน ปี 2565 ที่ผ่านมานี้เอง นอกจากนั้น แอนดี้ยังได้คาดการณ์ไว้ว่าตลาดคลาวด์มีแนวโน้มที่จะเติบโตถึง 20 เท่าจากปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีคลาวด์ยังอยู่ในจุดเริ่มต้น แต่ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีแสงสว่างรออยู่เบื้องหน้า
ถัดมา เขาได้ยกกราฟวงกลมที่พูดถึงอัตราส่วนของการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมคลาวด์จากอุตสาหกรรมไอทีทั้งหมด คิดเป็น 5% หรือประมาณ 1.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากประมาณ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาดไอทีรวม ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยในแง่ของตลาด สร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมคลาวด์ว่าสิ่งที่เรากำลังพัฒนานี้ไม่ได้อยู่ในตลาดขนาดเล็ก แต่เป็นตลาดระดับแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3 ล้านล้านบาทไทย โดยในอนาคต ตลาดนี้ก็จะขยายเพิ่มขึ้นอีกถึง 20 เท่า
มาร์กนำเสนอกราฟแท่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ market share ของตลาดคลาวด์ โดยองค์กรที่มี market share สูงถึง 33% ซึ่งมากที่สุด คือ Amazon ส่วนอันดับ 2 ที่มี market share 27% นั้น เขารายงานว่าคือองค์กร “อื่น ๆ” ซึ่งมาร์กได้ขยายความว่าองค์กรที่เขาเรียกว่า “อื่น ๆ” นี้คืออะไรในสไลด์ถัดไป
องค์กรอื่น ๆ ที่เขาทิ้งปริศนาไว้นั้น คือกลุ่มองค์กรที่นำ Open source หรือ OpenStack ไปใช้พัฒนาจนเกิดเป็น OpenStack powered public cloud และมี data center ให้บริการกระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 180 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอย่าง VEXXHOST, CLEURA, OVHcloud, T-Systems และ NIPA อีกด้วย ซึ่งมาร์กได้ยกตัวอย่างองค์กรเหล่านี้ให้แก่ผู้ฟังในงาน นับว่าเป็นเกียรติของบริษัทเป็นอย่างยิ่งที่ COO ของ OpenInfra Foundation กล่าวถึงในงานประชุมสุดยอดระดับโลกในครั้งนี้
สไลด์นี้ มาร์กต้องการแสดงให้เห็นว่า แม้เทคโนโลยีคลาวด์จะนับเป็นเรื่องใหม่ในสังคมโลก แต่เราก็เห็นได้ว่ามีองค์กรจำนวนไม่น้อยจากทั่วโลกที่ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อให้เกิดจุดมุ่งหมายร่วมกัน จนก่อให้เกิด market share มากถึง 27% และเป็นอันดับ 2 ในตลาด 1.8 แสนล้านนี้
หัวใจหลักของ open source คือการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน หรือ “Collaboration” เขาขยายความว่าคือการที่แต่ละองค์กรเข้ามาร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวเดียวกัน ไม่ใช่แค่การได้ผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปบริการลูกค้า แต่เป็นการร่วมกันพัฒนาและแก้ไขซอฟต์แวร์ ช่วยกันแก้ไขข้อผิดพลาด แชร์ประสบการณ์การพัฒนาคลาวด์ จนก่อให้เกิดคอมมิวนิตี้ที่มีชื่อว่า OpenInfra Foundation ขึ้นมา “แม้ว่าคลาวด์จะอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเรายังคงเป็นองค์กร “อื่น ๆ” ที่เป็นส่วนน้อยในตลาด 1.8 แสนล้าน แต่ผมก็ภูมิใจในความเป็น “อื่น ๆ” และผมหวังว่าคุณจะภูมิใจเช่นกัน” มาร์กเสริม
สุดท้าย เขาได้ทิ้งท้ายให้กับผู้ฟังว่า เมื่อคุณนำ OpenStack ไปพัฒนาคลาวด์แล้ว คุณไม่ได้เดินเพียงลำพัง เมื่อพบปัญหาหรืออุปสรรคใดก็ตาม คอมมิวนิตี้นี้ยินดีต้อนรับคุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนซอฟต์แวร์สำหรับโปรเจกต์เดิมหรือเริ่มโปรเจกต์ใหม่ เราก็พร้อมช่วยเหลือ และอุตสาหกรรมคลาวด์นั้นไม่สามารถทำให้คนหันมาใช้ได้ภายในข้ามคืน อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อให้คนรู้สึกคุ้นชินและมั่นใจที่จะใช้บริการเฉกเช่นอินเทอร์เน็ตในยุคแรกเริ่ม แต่เราเชื่อว่าในอนาคต คลาวด์จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของโลกได้อย่างแน่นอน ซึ่งเริ่มจากการที่สมาชิกในคอมมิวนิตี้ช่วยกันพัฒนาให้ public cloud จาก open source เป็นคลาวด์ที่ดีที่สุด ที่วันหนึ่งจะมีโอกาสขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ใน market share ได้ในอนาคต
