DBaaS คืออะไร ทำไมการใช้ Database as a Service ถึงสำคัญกับธุรกิจยุคใหม่
DBaaS คืออะไร เข้าใจง่ายๆ ใน 5 นาที
การทำธุรกิจในปัจจุบันนี้ ‘ข้อมูล’ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยวางแผนหรือมีส่วนสำคัญในการช่วยตัดสินใจต่อคนทำงานให้สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อในแต่ละองค์กรมีคลังข้อมูลปริมาณมาก ดังนั้น DBaaS หรือ Database as a Service จะเข้ามาช่วยดูแลฐานข้อมูลของธุรกิจ ซึ่งในบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงการทำงานของ DBaaS ได้ดียิ่งขึ้น
DBaaS ย่อมาจากอะไร
DBaaS ย่อมาจาก Database as a Service เป็นบริการที่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการจัดการข้อมูลที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้เครื่องมืออย่าง API หรือ Protocols ในการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างหรืออัปโหลดข้อมูลบนคลาวด์ได้ตามต้องการ โดยที่ไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ DBaaS มีความสามารถในการจัดการฐานข้อมูลจำนวนมาก โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างฐานข้อมูลใหม่บนคลาวด์ได้ตามความต้องการ เพราะ DBaaS ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายขนาดการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลข้อมูลที่กระจายไปยังหลายโหนด (Nodes) ซึ่งแต่ละโหนดจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อมต่อกันในเครือข่าย เพื่อให้ฐานข้อมูลสามารถประมวลผลได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการที่ระบบล่ม ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลในเรื่องของข้อจำกัดในการรองรับปริมาณข้อมูล
ข้อดีของ DBaaS
ลดค่าใช้จ่ายการดูแลโครงสร้างพื้นฐาน
เพราะผู้ใช้งานไม่ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าและดูแลฐานข้อมูลเอง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบ
ขยายขนาดการจัดเก็บข้อมูลได้ตามความต้องการ
เพราะ DBaaS สามารถยืดหยุ่นในเรื่องของขนาดการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งเหมาะกับกลุ่มธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงใหญ่ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรองรับปริมาณข้อมูลและการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้
มีการกู้คืนข้อมูลและความปลอดภัย
เนื่องจากผู้ให้บริการ DBaaS มักจะมีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ ช่วยกู้คืนข้อมูลที่สำคัญกลับมาได้ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือความเสียหาย รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์แบบที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียข้อมูล
ทำไมธุรกิจถึงควรหันมาสนใจ DBaaS
DBaaS ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการจัดการเก็บข้อมูลภายในองค์กร ที่จะช่วยลดภาระการจัดการฐานข้อมูลบนฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ได้ เนื่องจาก DBaaS อยู่บนคลาวด์ ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ตให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ DBaaS ยังมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ตั้งแต่การตั้งรหัสเข้าข้อมูล การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ และการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
องค์กรแบบไหนที่เหมาะกับ DBaaS
กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กหรือ Startup
ที่มีงบประมาณจำกัดในการพัฒนาโครงสร้างระบบไอทีในองค์กร เพราะว่า DBaaS จะช่วยลดต้นทุนทางด้านไอที โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปลงทุนอย่างการซื้อฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ในการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งการที่ใช้บริการคลาวด์จะช่วยให้องค์กรสามารถเน้นการพัฒนาหรือขยายธุรกิจได้มากกว่า
กลุ่มธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก
เช่น บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลหรือ Big Data ในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนหรือกลยุทธ์ขององค์กร ซึ่ง DBaaS จะช่วยให้เข้าถึงข้อมูลในปริมาณมากได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของการดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที
ตัวอย่างของ DBaaS ที่นิยม
Amazon RDS
เป็นการให้บริการฐานข้อมูลหลายประเภท เช่น MySQL, PostgreSQL, Oracle, และ SQL Server พร้อมฟีเจอร์การสำรองข้อมูลและการปรับขนาดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลอัตโนมัติ
Google Cloud SQL
การบริการโดยรองรับฐานข้อมูล MySQL และ PostgreSQL และมีฟีเจอร์ความปลอดภัยและการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
Microsoft Azure SQL Database
การให้บริการฐานข้อมูล SQL แบบ Fully Managed ที่มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สูง และสามารถปรับขนาดได้ตามต้องการ
MongoDB Atlas
การให้บริการฐานข้อมูล NoSQL ที่เหมาะสำหรับการจัดการข้อมูลจำนวนมากและรองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความยืดหยุ่น
สรุป
DBaaS เป็นทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลที่ตอบโจทย์ธุรกิจในยุคดิจิทัล เพราะจะช่วยในการลดต้นทุนทางด้านไอทีในองค์กร ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาวิธีการจัดการฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ DBaaS อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ที่จะช่วยในการจัดการฐานข้อมูลได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ใครที่กำลังมองหาโซลูชันคลาวด์ NIPA Cloud เราคือผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกในประเทศไทย ที่ให้บริการ Cloud Solution ให้กับองค์กรเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านไอทีให้ดียิ่งขึ้น หากสนใจระบบคลาวด์สามารถ ติดต่อเรา NIPA Cloud ได้ที่นี่
We—as a team of Thai people—are assured that Thai cloud is the absolute answer for driving your business in the digital era.