7 ข้อดี Open Source เทคโนโลยีแห่งอนาคตสำหรับการพัฒนาคลาวด์
เมื่อพูดถึงคลาวด์ เรามักนึกถึงผู้ให้บริการเจ้าใหญ่ ๆ ที่มีการพัฒนา public cloud ด้วยซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเอง แต่ในตลาดคลาวด์ไม่ได้มีแค่ผู้ให้บริการรายใหญ่เหล่านี้เพียงเท่านั้น ยังมีผู้ให้บริการคลาวด์ที่พัฒนา public cloud ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘open source’ คือการใช้เทคโนโลยีตัวเดียวกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงข้อผิดพลาดร่วมกันในคอมมิวนิตี้ทั่วโลก จนก่อให้เกิดบริการคลาวด์และ data center นี้กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก
ว่าแต่เทคโนโลยี open source สำคัญต่อการพัฒนาคลาวด์ยังไง วันนี้ NIPA Cloud จะขอพาทุกท่านมาเข้าใจประโยชน์ 7 ประการของ open source จากบทความ 7 Reason Why Open Source Is Critical for Cloud Development โดย Irfan Ak เพื่อให้เห็นภาพให้มากขึ้นว่า open source เป็นอนาคตอันสำคัญของวงการคลาวด์อย่างแท้จริง
ไม่มี Vendor Lock-Ins
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์นั้นคือผู้ให้บริการคลาวด์ส่วนมากมักผูกขาดการใช้คลาวด์ไว้เพียงเจ้าเดียว ทำให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการฟีเจอร์ที่จำเป็นจากผู้ให้บริการเจ้าอื่นได้อย่างอิสระ บางเจ้าอาจผูกขาดเป็นระยะเวลาหลายปี พูดง่าย ๆ คือเป็นการจำกัดการใช้งานฟีเจอร์คลาวด์ของลูกค้าที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะหากมองในมุมผู้ให้บริการแล้ว ลูกค้าควรได้รับการบริการที่ตอบสนองความต้องการมากที่สุด
เทคโนโลยี open source จึงมาแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะเทคโนโลยีนี้ไม่ได้จำกัดให้คุณใช้บริการ cloud provider เพียงเจ้าเดียว หรืออยู่ใน cloud environment เพียงแห่งเดียว ด้วยความที่ open source เป็นเทคโนโลยีที่เป็นกลาง จึงสามารถนำมาใช้ร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม หรือพัฒนาแอปพลิเคชันได้ตามความต้องการของแต่ละองค์กร
เปิดกว้างให้ใช้งานได้ไม่จำกัด
ด้วยพื้นฐานของเทคโนโลยี open source เป็นเทคโนโลยีที่ ‘เปิดกว้าง’ (openness) สิ่งนี้จึงมาช่วยแก้ปัญหาการจำกัดการพัฒนาคลาวด์ด้วยซอฟต์แวร์เพียงซอฟต์แวร์เดียวที่อาจไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณทั้งหมด โดยอิรฟานได้ยกแบบสำรวจว่ามีผู้นำด้านไอทีถึง 95% ที่มองว่า open source เป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ในองค์กร ทั้งด้านระบบปฏิบัติการและฐานข้อมูล
สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Open source นั้น นอกจากจะเปิดพื้นที่ให้พัฒนาคลาวด์ได้อย่างอิสระเสรีแล้ว ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย อันเนื่องมาจากการพัฒนาคลาวด์ร่วมกันในคอมมิวนิตี้ทั่วโลก ก่อให้เกิดโซลูชันและโปรดักต์ใหม่ ๆ ที่ออกมาให้บริการธุรกิจอย่างหลากหลาย กล่าวได้ว่า open source เป็นพื้นที่ที่ให้เหล่านักพัฒนาได้แสดงฝีมือร่วมกัน และเร่งให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น ตามยุคสมัยปัจจุบันที่เน้นความรวดเร็วและคุณภาพเป็นหลัก
โปร่งใส ตรวจสอบได้
หลายคนอาจคิดว่าเทคโนโลยี open source นั้นไม่โปร่งใส ซึ่งไม่เป็นความจริง เทคโนโลยีดังกล่าวพัฒนาขึ้นภายในคอมมิวนิตี้ ดังนั้น นักพัฒนาจึงสามารถเข้าถึงการทำงานและตรวจสอบได้ อีกทั้งมีการยังดูแลคุณภาพและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เสริมให้ open source เป็นเทคโนโลยีที่สร้างความเชื่อมั่นและตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้อย่างสูงสุด
ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อองค์กร
อิรฟานอ้างสถิติจากแบบสำรวจว่า 77% ของผู้นำด้านไอทีกำลังวางแผนปรับใช้ open source ในอีก 12 เดือนข้างหน้า สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่ต่ำกว่า ประกอบกับความปลอดภัยและการพัฒนาภายในคอมมิวนิตี้ที่มีฐานผู้ใช้งานกว้างขวางและหลากหลายกว่า เสริมให้เทคโนโลยี open source เป็นตัวเลือกแห่งอนาคตที่ธุรกิจต้องการนำมาปรับใช้กับซอฟต์แวร์ภายในองค์กร และสร้างพอร์ตโฟลิโอด้านเทคโนโลยีได้อีกด้วย
ใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นได้ตามต้องการ
หากธุรกิจของคุณกำลังใช้ไฮบริดคลาวด์หรือมัลติคลาวด์อยู่ แล้วกังวลว่าเมื่อเปลี่ยนมาใช้คลาวด์ที่เป็น open source นั้นจะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย เพราะ open source เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้ร่วมกับ cloud environment อื่นได้ตามต้องการ จึงมั่นใจได้ว่าธุรกิจที่ใช้บริการไฮบริดคลาวด์หรือมัลติคลาวด์จะดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งโซลูชันจาก open source ยังสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้ ไม่ว่า application layer ของคุณจะรันอยู่บน virtual machine หรือใน container ก็ตาม การใช้ open source จะมาช่วยจัดการเรื่อง workload ที่ต้องจัดการในคลาวด์หลายวงพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควบคุมการใช้งานได้ตามใจชอบ
อิรฟานกล่าวว่า ธุรกิจถึง 86% กำลังใช้ไฮบริดคลาวด์ดำเนินกลยุทธ์อยู่ ด้วยจำนวนมากขนาดนี้ ผลลัพธ์ที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมาก เทคโนโลยี open source เป็นโซลูชันที่จะมาแก้ปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากการพัฒนาที่เปิดกว้างให้กับทีม devs และเครื่องมือที่ครบครัน ต่างจากการพัฒนาคลาวด์แบบดั้งเดิมที่จำกัดการใช้งาน ทำให้นักพัฒนาสามารถเลือกสรรเครื่องมือได้อย่างหลากหลายและง่ายกว่าเดิม open source จึงเป็นคำตอบที่สำคัญของการพัฒนาคลาวด์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง
ที่มา