7 เทรนด์เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ในปี 2022

ในปี 2021 นี้เราได้เห็นถึงความก้าวหน้าของ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอยู่ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม Social Media อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน เครื่องปรับอากาศ หรือตู้เย็น ในปีถัดไป 2022 เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากกว่าเดิม โดยที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

Sundar Pichai CEO ของ Google กล่าวว่า “ผลกระทบของ AI มันจะยิ่งใหญ่กว่าการค้นพบไฟหรือไฟฟ้า โดยจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับความเปลี่ยนแปลงระดับธรรมชาติ สภาพภูมิอากาศ อวกาศ และอายุขัย เช่น การรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งศักยภาพเหล่านี้มีอยู่อย่างชัดเจน”

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) คือ ระบบ (System) ที่มีฟังก์ชันความสามารถในการเรียบเรียง จัดการ ประมวลผล และเรียนรู้ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เช่น ข้อมูลขององค์กร บันทึกการใช้งาน พฤติกรรมของมนุษย์ ภาพและเสียง รวมถึงความรู้ต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้หลากหลาย ตั้งแต่การเรียนรู้ ตลอดจนแก้ปัญหาต่าง ๆ ระบบที่มีความสามารถเหล่านี้จึงเรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) หรือสมองกลนั่นเอง

การเข้ามาของ AI ที่ก้าวหน้ามากขึ้น จะส่งผลกระทบในการทำงานของภาพอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการทำงานของเครื่องจักรที่จะทำให้สามารถตัดสินใจแทนมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดการทำงานของเครื่องจักรในปี 2021 นี้อย่างมาก

ความกลัวที่ปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามาทำหน้าที่แทนมนุษย์เป็นแนวคิดที่แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ต้องทำงานใกล้ชิดกับเครื่องจักรหรือเครื่องมือที่มี AI เป็นส่วนสำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่สามารถทำหน้าที่ทดแทนมนุษย์ได้

ในปี 2021 จะเห็นได้ว่า AI ทำให้มนุษย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การตลาด ทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น หรืองานด้าน IT โดยเข้าช่วยให้สามารถทำการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์และลด Downtime ลงได้ จะเห็นได้ว่า AI ช่วยให้การทำงานของมนุษย์สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2022 ปัญญาประดิษฐ์จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมนุษย์ก็จะสามารถทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

การแปลภาษาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารในปัจจุบันมีความเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ของผู้คนทั่วโลก ซึ่งช่วยลดอุปสรรคด้านภาษาของคนในประเทศต่าง ๆ ล่าสุดเราได้เห็นการเปิดตัว GPT-3 ซึ่งเป็น OpenAI ที่ก้าวหน้าที่สุด โดยมีพารามิเตอร์ที่สามารถประมวลผลภาษาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และในอนาคตของปี 2022 เรากำลังจะก้าวสู่ GPT-4 ซึ่งจะเกิดการสร้างองค์ความรู้ที่ไม่มีกำแพงด้านภาษา และจะทำให้ข้อมูลทั่วทั้งโลกกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น

ในปี 2021 เกิดการโจรกรรมทางไซเบอร์ทั่วโลก เนื่องจากอุปกรณ์เชื่อมต่อที่เพิ่มมากขึ้นทำให้นักโจรกรรมสามารถเข้าถึงระบบส่วนกลางของเครือข่ายต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งการเข้ามาของ ปัญญาประดิษฐ์จะช่วยลดช่องโหว่และข้อบกพร่องที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ Traffic ระบบ Network และรูปแบบความผิดปกติของเครือข่าย ซึ่งจะมีการพัฒนา AI ให้มี Algorithm ที่มีความฉลาดมากขึ้น ซึ่งเราจะได้เห็นภายในปี 2022 อย่างแน่นอน

Metaverse เป็นสภาพแวดล้อมด้านดิจิทัลขนาดใหญ่ที่สามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ กล่าวได้ว่าเป็นโลกเสมือนจริงบนโลกอินเทอร์เน็ตที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2022 อย่างที่เห็นได้ชัดสำหรับ Facebook ที่กำลังก้าวหน้าในโลก Metaverse เป็นอย่างมาก โดยจะทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์เสมือนที่สมจริง อันเกิดจากการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับสังคมออนไลน์บน Facebook ซึ่งมีกำลังสำคัญคือ AI นั่นเอง

ในยุคของ IT โปรแกรมเมอร์เป็นกำลังขับเคลื่อนที่สำคัญ แต่ในขณะเดียวกันผู้คนในด้านนี้กลับมีอยู่อย่างจำกัด ส่งผลทำให้หลาย ๆ บริษัทที่ต้องการ AI มักขาดโปรแกรมเมอร์ไป ผู้พัฒนา AI ขนาดใหญ่จึงมีวิสัยทัศน์ในการลดการเขียน Code เพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ให้เหมือนกับการทำเว็บไซต์ในปัจจุบันที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่อง Code ก็สามารถเขียนเว็บไซต์ได้ ในปี 2022 จึงอาจเป็นไปได้ว่าเราอาจได้เห็น AI ที่ไม่จำเป็นต้องเขียน Code เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้องค์กรที่มีขนาดเล็กสามารถเข้าถึงได้ง่ายดายมากขึ้นนั่นเอง

ในปี 2021 เราได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์มากมาย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Auto-pilot ที่เด่นชัดมาก ๆ อย่าง Tesla แต่นั่นก็ยังมีข้อผิดพลาดมากมายในการทำงานของเทคโนโลยีการขับขี่นี้ ซึ่งในปี 2022 เราอาจจะได้เห็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นของ AI ซึ่งช่วยในการขับขี่ที่ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงคู่แข่งของ Tesla ที่จะทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยและการขับขี่ที่ไม่จำเป็นต้องมีคนขับอีกต่อไป

ความทะเยอทะยานในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียและปัญหาสังคมต่าง ๆ ตามมา โดยมีบริษัทชั้นนำทั่วโลกกำลังพัฒนา AI เหล่านี้ เช่น Waymo (โดย Google), Apple, GM และ Ford คาดว่าจะประกาศการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในปีหน้า

แน่นอนว่าปัญญาประดิษฐ์มีความฉลาดใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์ แต่ส่วนใหญ่เรามักใช้ AI ในด้านของการคำนวณ วิเคราะห์ และประมวลผลเชิงข้อมูล แต่ในด้านของการสร้างสรรค์ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เช่น การสร้างงานศิลปะ ดนตรี บทกวี บทละคร หรือแม้แต่วิดีโอเกมได้ ในปี 2022 นี้ เราอาจได้เห็น GPT-4 และ Brain ของ Google ซึ่งสามารถสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ซับซ้อนและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การเขียนพาดหัวข่าว บทความ จดหมายข่าว การออกแบบโลโก้ และอินโฟกราฟิก ซึ่งนั่นไม่ใช่การทำหน้าที่ทดแทนมนุษย์ แต่จะช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ดียิ่งขึ้น