Customer Story

"NIPA Cloud" คลาวด์สัญชาติไทย ที่ช่วยลดต้นทุนให้ธุรกิจคุณได้มหาศาล กรณีศึกษา: กรุงไทยคอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส (KTBCS)

Published : August 9, 2021Time : 3 min read

ในปัจจุบันภาพรวมเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทยเริ่มมีการใช้งานมากขึ้นและชัดเจนในช่วงโควิด-19 อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะองค์กรภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น สถาบันการเงิน แต่มักเป็นการพึ่งพาโครงสร้างเทคโนโลยีจากต่างชาติเป็น ส่วนใหญ่ ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มมีการปรับตัวมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศเพื่อลดต้นทุนจากการไปใช้เทคโนโลยีคลาวด์จากต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง NIPA Cloud สามารถช่วยลดต้นทุนให้ธนาคารกรุงไทยได้มากถึง กว่าร้อยล้านบาทต่อปี

NIPA Cloud เบอร์ 1 ในวงการ Cloud Technology เมืองไทย รุกงานมูลค่ากว่า 120 ล้านจากกรุงไทยคอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส (KTBCS) ในเครือธนาคารกรุงไทย ในการจัดทำโครงสร้างไอทีด้าน Cloud Infrastructure และ Cloud Management Software เพื่อสอดรับกับแผนพัฒนา Vayu Cloud รวมทั้งหมด 5 โครงการ เป็นระยะของสัญญารวม 5 ปี ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกรุงไทยสามารถลดต้นทุนด้านไอทีด้วยการย้ายขึ้นคลาวด์ได้มากถึงปีละกว่าร้อยล้านบาท

นพ. พลวรรธน์ เชื่อมั่น เลือก NIPA Cloud วางโครงสร้างพื้นฐาน KTBCS

นายอภิศักดิ์ จุลยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิภาเทคโนโลยี จำกัด หรือ NIPA Cloud เปิดเผยเป็นครั้งแรก ในวันที่ 27 กรกฎคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการลงนามในสัญญาดำเนินโครงการจัดหาอุปกรณ์พร้อมติดตั้งระบบ OpenStack Cloud Platform และ Cloud Management Software (NCP) กับบริษัท กรุงไทยคอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด (KTBCS) ในเครือธนาคารกรุงไทย มูลค่าโครงการทั้งหมดรวมกว่า 120 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ซึ่งโครงการแรก Vayu Cloud Autonomy 1 ได้ดำเนินการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบัน กำลังดำเนินการติดตั้ง Vayu Cloud Autonomy 2 และ 3 ทุกโครงการเป็นดำเนินการจัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภทฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึง Ceph Storage ขนาดใหญ่ เพื่อปรับปรุงระบบการบริหารจัดการข้อมูลภายใน และเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรในการพัฒนาตามแผนงาน Vayu Cloud Strategy ของธนาคารกรุงไทย และทุกสัญญามีงานซ่อมบำรุงระบบดังกล่าวอย่างต่อเนื่องถึง 5 ปี

โดย NIPA Cloud เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ในรูปแบบ Public และ Private Cloud ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยี Open Source ที่เรียกว่า OpenStack มาทำการวิจัยและพัฒนาด้วยทีมงานคนไทย รวมถึงการพัฒนา Storage ขนาดใหญ่ หรือ Ceph Storage ที่ทุกคนรู้จักดีว่าเป็น software define storage ที่น่าเชื่อถือที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ NIPA Cloud ยังได้พัฒนา Cloud Management Software ที่เรียกว่า NCP (NIPA Cloud Platform) เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลบนระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย แค่ปลายนิ้ว ได้ทุกที่ทุกเวลา

ทั้งนี้บริษัท NIPA Cloud เป็นบริษัทไอทีที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของวงการเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย ซึ่งสร้างผลงานให้กับทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (AOT), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน (AIS), บริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้พริ้นท์ติ้ง จำกัด (CSP) เป็นต้น โดยมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ทางด้านนี้โดยเฉพาะ ในการให้บริการด้านการติดตั้ง จัดการ และการซ่อมบำรุง

สำหรับโครงการ Cloud Infrastructure และ Cloud Management Software นี้ จัดอยู่ในแผนงานพัฒนาโครงสร้าง Vayu Cloud Service ของ KTBCS โดยนายแพทย์ พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ประธานกรรมการ KTBCS และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย กล่าวถึงแนวทางในการเปลี่ยนแปลงธนาคารกรุงไทยให้เป็น Native Cloud Provider เช่น โครงการ Vayu-P, โครงการ Vayu-ML และโครงการ Vayu-X ในงานสัมมนา TTT Virtual Summit 2021 ซึ่งจะเป็นการพัฒนา เปลี่ยนแปลงโครงสร้างไอทีและปรับปรุง กระบวนการบริหารจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น เป็นการเตรียมความพร้อมในด้านทรัพยากรที่จะทำให้สามารถย้ายฐานข้อมูลเดิม จากที่อยู่บนผู้ให้บริการคลาวด์ต่างประเทศ อาทิ AWS และ Google Cloud มาติดตั้งใช้งานอยู่ภายในองค์กรเองหรือภายในประเทศได้ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวจะทำให้ลูกค้าและผู้ใช้บริการของธนาคารมีความมั่นใจในเก็บของข้อมูลส่วนตัวที่ย้ายมาอยู่ภายในประเทศ รวมถึงความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลที่ดีขึ้น ทั้งนี้ นายแพทย์พลวรรธน์ ยังได้กล่าวขอบคุณ NIPA Cloud ที่เป็นพันธมิตรในการเริ่มต้นร่วมกันเปิดทางสู่เทคโนโลยีคลาวด์อีกด้วย

“ในปัจจุบันภาพรวมเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทยเริ่มมีการใช้งานมากขึ้นและชัดเจนในช่วงโควิด-19 อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะองค์กรภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น สถาบันการเงิน แต่มักเป็นการพึ่งพาโครงสร้างเทคโนโลยีจากต่างชาติ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มมีการปรับตัวมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศเพื่อลดต้นทุนจากการไปใช้เทคโนโลยีคลาวด์จากต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง NIPA Cloud สามารถช่วยลดต้นทุนให้ธนาคารกรุงไทยได้มาก ถึงกว่าร้อยล้านบาทต่อปี” นายอภิศักดิ์กล่าว

ด้วยความต้องการการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ที่เพิ่มมากขึ้น NIPA Cloud ที่มี Internet Data Center (IDC) เป็นของตนเอง จึงได้ต่อยอดความสำเร็จสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีคลาวด์ที่วิจัยและพัฒนาขึ้นมาเองตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะเราเล็งเห็นว่าการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาตินั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและทำให้เงินตราไหลออกนอกประเทศ เพื่อให้องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถลดต้นทุนได้ ทั้งยังเก็บข้อมูลให้อยู่ภายในประเทศ (สอดคล้องกับ PDPA) เพื่อความรวดเร็วและความปลอดภัยในการเข้าถึง

AUTHOR
Author
Natee Manohan
Head of Marketing