PC vs Rack Server เราเหมาะกับแบบไหน?

เครื่อง Server ในความเข้าใจของแต่ละคนนั้นอาจจะมีหน้าตาหลายแบบ ตั้งแต่ Server เล็กๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดา 1 เครื่องสร้างขึ้นมาแล้วเดินระบบเอา หรืออาจจะเป็น Server ตู้สี่เหลี่ยมแบบ Rack ที่นำมาใช้ใน Data Center หลายๆ แห่ง หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ทั้งสองตัวนี้แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับการใช้งานของเราที่สุดกันแน่ ซึ่งคำตอบนั้นได้มาอยู่ในบทความนี้แล้วเรียบร้อย

1. Web Server : Server ที่ใช้เป็น Host ของ Website บริษัทหรือองค์กรต่างๆ
2. Mail Server : Server ที่ใช้งานรับ/ส่ง E-mail ในองค์กรโดยเฉพาะ
3. DNS Server : Server ที่ใช้งานด้าน Domain name เป็นหลัก
4. Database Server : Server ที่ใช้สำหรับเก็บและบริหารข้อมูลหรือเว็บไซต์ขององค์กรโดยเฉพาะ

ถึงแม้ว่าทั้ง Rack และ PC จะสามารถนำมาทำเป็นเครื่อง Server ได้ แต่ก็มีรายละเอียดส่วนสำคัญที่ต่างกันอยู่

แบบ PC จะเหมือนกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่ใช้งานในบ้าน มี Hardware ที่หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป สามารถหาอุปกรณ์มาเปลี่ยนแทนกันได้ง่ายหากเกิดความเสียหาย

ส่วน Rack Server จะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้าน Server โดยเฉพาะ มีความบางและสามารถตั้งซ้อนเป็นชั้นๆ ได้ Rack 1 เครื่อง จะถูกเรียกว่า 1U เป็นอุปกรณ์พิเศษเฉพาะทาง ต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล มีจุดเด่นคือ มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานต่อเนื่องได้ตลอด 24 ชั่วโมง ต่างจาก PC Server ที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้เปิดใช้งานได้ยาวนานเท่า

ด้านการติดตั้ง Rack Server จะกินพื้นที่น้อยกว่า PC Server เพราะรูปทรงที่บาง สามารถตั้งซ้อนกันในตู้ Rack ได้ตู้ละหลายสิบเครื่อง ส่วน PC Server จะมีลักษณะเป็นเคสแบบที่เราใช้งานกันทั่วไป ทำให้กินพื้นที่มากกว่า นอกจากนี้การออกแบบ Air flow ของ Rack ก็ยังเหนือกว่าของ PC ตรงที่ระบบระบายอากาศของ Rack จะนำลมเย็นเข้ามาระบายความร้อนจากหน้าเครื่องไปหลังเครื่อง ความร้อนจึงถูกระบายออกไปได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าติดตั้งเอาไว้ในห้อง Data Center ที่มีระบบระบายความร้อนดีๆ อย่าง Precision Air ก็จะยิ่งยืดอายุการใช้งาน Rack ไปอีก

ในส่วนของสายส่งข้อมูล สำหรับ PC จะเป็น Lan Port ทั่วไปที่เราใช้เชื่อมต่อแบบปกติด้วยสาย Lan Cat5e หรือ Cat6 ซึ่งความเร็วในการการส่งข้อมูลจะถูกจำกัดให้เท่ากับหรือต่ำกว่าที่ Lan port จะรับได้ ในขณะที่ Rack Server ส่วนใหญ่จะติดตั้ง Fiber port มากับตัวเครื่องเลย ทำให้ส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ PC หลายเท่า บาง Rack ที่ไม่มี Fiber port ติดตั้งมาแต่แรก ก็สามารถสั่งซื้อ Port มาติดตั้งเพิ่มภายหลังเองได้ นับเป็นอีกจุดเด่นที่เหนือกว่า PC Server

ถึงแม้ Server ทั้งสองแบบจะสามารถทำงานได้เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างและจุดเด่นกันคนละอย่าง มาดูกันว่า PC Server และ Rack Server นั้นเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

1. เหมาะกับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องการใช้ทำ Project : เนื่องจากเป็นการใช้งานทั่วไปที่ Workload ไม่หนักมาก และใช้แค่เพื่อรันการทำงานขั้นพื้นฐาน
2. เหมาะกับคนทั่วไปที่ต้องการทำ Website ของตัวเอง : Website ที่ Workload ยังไม่มาก หรือเพิ่งเปิดใหม่ควรเริ่มต้นที่ PC Server แล้วค่อยขยับขยายไปใช้งาน Rack Server ในภายหลัง
3. เหมาะกับการเช่าเพื่อใช้งานด้านอื่นๆ : ไม่ว่าจะเป็นการ Host เพื่อส่งต่อไฟล์หรือ Server แบบต่างๆ

1. เหมาะกับกลุ่มบริษัทและองค์กร : ใช้เพื่อการ Host ระบบ Cloud Computing หรือ Mail Server ขององค์กร กระทั่ง SME ระดับกลางเองก็เหมาะกับ Rack Server เช่นกัน
2. เหมาะเป็น Host Server ของเกมออนไลน์ : บริษัทที่ให้บริการเกมออนไลน์ ไม่ว่าจะเกม PC หรือ Mobile Game ต่างก็จำเป็นต้องมี Server ที่รองรับ Workload ได้จำนวนมาก
3. เหมาะกับกระทรวงหรือมหาวิทยาลัย : เพื่อรองรับผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อเข้ามา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่จะมีนักศึกษาเชื่อมต่อเข้ามาเพื่อใช้งานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนเรียนหรือตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว Server จึงต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลา

โดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่ารูปแบบของ Server ทั้งสองมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ตามความสะดวกและเหมาะสม