SABUY x NIPA: 1 + 1 ที่มากกว่า 2 การร่วมทุนที่ส่งผลดีกับ SMEs
จากข่าวที่ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ลงทุนใน บริษัท นิภา เทคโนโลยี จำกัด หรือ NIPA มูลค่า 200 ล้านบาทนั้น ได้เกิดข้อสงสัย คำถาม และการคาดการณ์ต่าง ๆ มากมาย
NIPA Cloud จึงขอพามาไขข้อเท็จจริงว่าเพราะเหตุใด SABUY จึงลงทุนใน NIPA ต่างคนต่างเห็นสิ่งใดของกันและกัน มีจุดมุ่งหมายอะไร จะเกิดผลกระทบใดตามมา ตลอดจนแนวคิด “1 + 1 ที่มากกว่า 2” นั้นสื่อถึงอะไร บทความนี้มีคำตอบให้คุณแล้ว
รู้จัก SABUY
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับทั้ง 2 องค์กรกันก่อน SABUY คือ aggregator investment holdings หรือผู้รวบรวมเทคโนโลยีจากบริษัทต่าง ๆ เข้ามารวมกัน และสร้าง ecosystem โดยสาเหตุที่ SABUY เลือกทำธุรกิจแบบนี้ เนื่องจากโลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก หากจะเริ่มสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ทั้งหมดจะกินเวลาค่อนข้างนาน อย่างน้อยก็ 18-24 เดือน SABUY จึงเลือกใช้กลยุทธ์ในการร่วมลงทุนกับกิจการต่าง ๆ เพื่อความรวดเร็วในการทำธุรกิจ
รู้จัก NIPA
NIPA คือ cloud computing provider NIPA Cloud, Data Center และ digital marketing agency NIPA Digital Marketing Agency - การตลาดออนไลน์ครบวงจร ในด้านของ cloud provider เราแตกต่างจากองค์กรอื่นในไทย เนื่องจาก NIPA Cloud นำเทคโนโลยี open source ที่ชื่อว่า OpenStack มาวิจัยและพัฒนาเองทั้งหมด ทำให้สามารถออกแบบและปรับแต่งได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ระดับที่ลึกที่สุดคือโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) และพูดได้เต็มปากว่าเราเป็นเจ้าของคลาวด์เองอย่างแท้จริงตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพ เมื่อโครงสร้างพื้นฐานมีความแข็งแกร่งก็จะสามารถต่อยอดได้ไม่ยาก
กลยุทธ์ในการร่วมทุน
การร่วมทุนครั้งนี้มีกลยุทธ์ในการคัดเลือกบริษัทร่วมลงทุนทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่
1. SABUY และ NIPA สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับตนเองและบริษัทที่ตนเองลงทุนได้หรือไม่?
สิ่งที่ NIPA พร้อมที่จะช่วยเหลือ SABUY คือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT infrastructure) ที่มีความแข็งแกร่ง และสามารถควบคุมปรับแต่ง (customization) เองได้ทันที จากประสบการณ์ความรู้ความสามารถ R&D มากว่า 7 ปี
โดยก่อนที่ SABUY จะเข้าลงทุนใน NIPA นั้น SABUY มีบริษัทที่ลงทุนอยู่แล้วกว่า 54 บริษัท ซึ่งหากมองจากการวางตัวของ SABUY ที่ต้องการเป็น aggregator investment holdings แล้ว การจะเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีคนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในภายภาคหน้านั้น โครงสร้างพื้นฐานถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการต่อยอดอย่างมาก
ในมุมของ NIPA Cloud ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำด้านคลาวด์เอง ก็ได้ประโยชน์จากการมีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมต่อยอดการขยายศูนย์ข้อมูล (data center) ทั่วประเทศไทย เพื่อพร้อมกับการตอบรับเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Internet of things หรือ IoT และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีโปรดักต์เป็นของตัวเอง ทำให้การควบคุมและพัฒนาทำได้ง่าย ดังนั้น การได้ฐานทุนจาก SABUY จึงถือว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพให้สูงขึ้นอย่างมาก
2. ลักษณะการทำงานของผู้ถือหุ้นว่าทั้ง 2 องค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่?
ณ จุดเริ่มต้นของดีลนี้ SABUY เองก็ได้มีการ POC และทดสอบระบบของ NIPA มาตั้งแต่ปี 2565 แล้วว่าทีมงานของทาง SABUY สามารถทำงานร่วมกับทีมงานของ NIPA ได้หรือไม่ เมื่อมั่นใจแล้วจึงตัดสินใจเข้าลงทุนใน NIPA สิ่งที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของทั้งสององค์กรมีเหมือนกันคือ การเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งและเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารขององค์กรตนเอง นอกจากนี้ สิ่งที่ผู้บริหารทั้งสองท่านมองเห็นตรงกันคือ ต้องการช่วยเหลือผู้เล่นรายย่อยหรือธุรกิจ SMEs ภายในประเทศ
โดยวิธีในการช่วยเหลือไม่ใช่การนำเทคโนโลยีไปให้ในราคาที่สูงเพื่อเป้าหมายทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยหลักในการประสบความสำเร็จนั้นคือการ ‘ลดต้นทุน’ หากทำแล้วราคาสูงขึ้นก็ย่อมไม่เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อย แต่หากจะทำแล้วราคาเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิมนั้น ราคาควรลดลงผ่านการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพ เมื่อผู้บริหารของทั้งสององค์กรมีวิสัยทัศน์ตรงกัน จึงไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กร
3. หากทำงานร่วมกันแล้ว สามารถส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรอบได้มาก-น้อยแค่ไหน?
SABUY และ NIPA ไม่ได้มองหาการร่วมทุนที่ทำแล้วมีผลกระทบน้อย หาก 1+1 = 2 ก็หมายความว่า เราไม่ได้มีผลกระทบต่อสังคมมาก แต่หากร่วมทุนกันแล้ว 1+1 ควรเท่ากับ 3 หรือมากกว่านั้นได้ก็จะยิ่งดี โดยผลกระทบที่ว่านี้ SABUY และ NIPA หมายถึง ส่วนแบ่งการตลาด (market share) ที่เพิ่มขึ้น คุณภาพในการให้บริการ (quality of service) ที่ดีขึ้น และสุดท้าย ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มากขึ้น
การร่วมทุนครั้งนี้ หากทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานแล้ว ย่อมส่งผลกระทบไม่เพียงแค่ SABUY และ NIPA แต่ยังส่งผลกระทบต่อคนอื่น ๆ ในสังคมด้วย จากเจตนารมณ์ของทั้งสองบริษัทที่ต้องการให้เหล่า SMEs หรือผู้ประกอบการขนาดเล็กสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ในราคาที่ต่ำ เพื่อให้คนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการใช้งานเทคโนโลยีนั่นเอง
การร่วมมือกันเพื่อสร้างผลกระทบอันดีต่อ SMEs และสังคมไทยของทั้ง NIPA และ SABUY นั้น เป็นการร่วมมือกันที่น่าจับตามองในตลาด NIPA Cloud จึงอยากให้ทุกท่านเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากเจตนาอันดีของ SABUY และ NIPA ที่จะพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มกำลัง
I'm interested in learning new things, especially business and investment.