Hybrid Cloud
Tech Knowledge

ความต่างระหว่าง Hybrid Cloud vs Multi Cloud

Published : December 15, 2021Time : 2 min read

Hybrid Cloud คืออะไร

Hybrid Cloud คือการผสมผสานข้อดีระหว่าง Public Cloud และ Private Cloud ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อดีของทั้งสองประเภทคลาวด์ในแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวขององค์กร โดยที่สามารถใช้ความยืดหยุ่นและการขยายตัวจาก Public Cloud พร้อมทั้งยังให้ความปลอดภัยและการควบคุมทรัพยากรตามต้องการด้วย Private Cloud

ข้อดี

  • เลือกการจัดการระหว่าง Public Cloud และ Private Cloud ได้ตามต้องการ
  • มีความยืดหยุ่นสามารถขยายทรัพยากรได้ทันทีตามต้องการ
  • ความปลอดภัยสูง สามารถจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญไว้ใน Private Cloud

Multi Cloud คืออะไร

Multi Cloud คือการใช้บริการ Public Cloud หลายรายพร้อมกันในระบบเดียว องค์กรจะสามารถเลือกประโยชน์ของบริการที่หลากหลายของ Public Cloud แต่ละเจ้า และนำมาใช้ให้เหมาะสมที่สุดเช่น การใช้งาน AWS, Microsoft Azure, Google Cloud Platform (GCP) และ NIPA Cloud รวมกันตามความเหมาะสมของแต่ละบริการ

ข้อดี

  • ลดการพึ่งพาผู้ใช้บริการรายเดียว ช่วยลดความเสี่ยงหากเกิดปัญหา
  • สามารถเลือกใช้บริการและฟีเจอร์ที่เหมาะสมที่สุดจากแต่ละผู้ให้บริการ

เปรียบเทียบระหว่าง Hybrid Cloud และ Multi Cloud เลือกระบบ Cloud แบบไหนดี

การเลือก Hybrid Cloud หรือ Multi Cloud ขึ้นอยู่กับความต้องการและความพร้อมขององค์กรในหลายด้าน เช่น ความต้องการของธุรกิจ, งบประมาณ, ความซับซ้อนของระบบ, และเป้าหมายระยะยาว โดยสามารถพิจารณาได้ดังนี้

1. ความต้องการของธุรกิจ

Hybrid Cloud : เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการผสานความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลด้วย Private Cloud เข้ากับความยืดหยุ่นและความสามารถในการขยายตัวของ Public Cloud

Multi Cloud : เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้บริการของแต่ละเจ้าและต้องการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียว

2. ความซับซ้อนในการจัดการ

Hybrid Cloud : มีความซับซ้อนต่ำกว่า เพราะเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud ที่มักจะเป็นผู้ให้บริการรายเดียวกัน

Multi Cloud : มีความซับซ้อนในการจัดการสูงกว่า Hybrid Cloud เนื่องจากต้องจัดการผู้ให้บริการหลายรายพร้อมกัน

3. ค่าใช้จ่าย

Hybrid Cloud : มีต้นทุนที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว หากองค์กรมีโครงสร้าง Private Cloud อยู่แล้ว

Multi Cloud : อาจเพิ่มต้นทุนหากมีการจัดการไม่ดี เช่น การคำนวณค่าใช้จ่ายระหว่างคลาวด์

4. ความปลอดภัย

Hybrid Cloud : มีข้อได้เปรียบด้านความปลอดภัยสำหรับข้อมูลที่อ่อนไหว เพราะสามารถจัดเก็บข้อมูลใน Private Cloud และใช้ Public Cloud สำหรับงานที่ไม่สำคัญ

Multi Cloud : เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการกระจายความเสี่ยงโดยความปลอดภัยขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละผู้ให้บริการคลาวด์

5. ความยืดหยุ่น

Hybrid Cloud : ยืดหยุ่นในการขยายทรัพยากรอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างความสมดุลระหว่างงานในองค์กรและงานภายนอก

Multi Cloud : มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้บริการแต่ละฟีเจอร์เฉพาะทาง

แนวโน้มของ Hybrid Cloud และ Multi Cloud ในปี 2025

ในปี 2025 แนวโน้มการใช้ Hybrid Cloud และ Multi-Cloud จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมคลาวด์

แนวโน้มของ Hybrid Cloud

  • ในปี 2025 การรวม IoT และ Edge Computing กับ Hybrid Cloud จะเป็นที่นิยมมากขึ้น
  • Hybrid Cloud จะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการการควบคุมข้อมูล เช่น การเงิน การแพทย์ และรัฐบาล
  • จะมีการประมวลผลแบบ Hybrid Computing เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การจัดการ Hybrid Cloud จะใช้ AI ในการปรับแต่งทรัพยากรอัตโนมัติ เช่น การปรับลดเซิร์ฟเวอร์ตามปริมาณงาน

แนวโน้มของ Multi Cloud

  • เทคโนโลยีเช่น Kubernetes และ Terraform จะกลายเป็นแกนกลางในการจัดการ Multi-Cloud
  • การใช้ระบบ Zero Trust Security จะกลายเป็นมาตรฐานในการป้องกันภัยคุกคาม
  • การเติบโต Hybrid Multi-Cloud เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2025

องค์กรควรเริ่มวางแผนกลยุทธ์การใช้ Hybrid Cloud หรือ Multi-Cloud ตั้งแต่วันนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตในปี 2025

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้และกำลังมองหาโซลูชัน Cloud Hybrid เราคือผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกในประเทศไทย ที่ให้บริการ Cloud Solution ให้กับองค์กรเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านไอทีให้ดียิ่งขึ้น หากสนใจระบบคลาวด์สามารถ ติดต่อเรา NIPA Cloud ได้ที่นี่

เริ่มต้นการย้ายข้อมูลสู่ระบบคลาวด์กับ NIPA Cloud วันนี้ เรายินดีให้คำปรึกษาแก่ทุกองค์กร
AUTHOR
Author
Chaow Charoensomsamai
Growth and Strategy Associate

I'm interested in learning new things, especially business and investment.