พลิกโฉมองค์กรใหม่ด้วย Sovereign Cloud สัญชาติไทยที่ช่วยลดต้นทุนได้มากกว่าครึ่ง! | CloudCast Central EP 8

เทคโนโลยีคลาวด์ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางไอที ไม่ว่าจะภาครัฐหรือภาคเอกชนต่างต้องพึ่งพาคลาวด์ในการจัดเก็บข้อมูลสำคัญรวบรวมไว้ในที่เดียว ทั้งยังมีความต้องการที่จะให้คลาวด์เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจมากขึ้น

การจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ของต่างชาติอาจเกิดช่องว่างระหว่างกฎหมาย ที่ผ่านมาจนปัจจุบันจะเห็นกันว่าเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย เลือกใช้ระบบคลาวด์ต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างเช่น Private Cloud จะเลือกใช้ VMware หรือ Nutanix ขณะที่ Public Cloud จะเลือกใช้ AWS, Google Cloud หรือ Azure ซึ่งผู้ให้บริการคลาวด์ต่างชาติ ก็จะดำเนินงานภายใต้กฎหมายของประเทศนั้น ๆ หากมีการเรียกตรวจสอบข้อมูลก็ไม่สามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลให้ได้ ยิ่งถ้าบางองค์กรอย่างภาครัฐมีข้อมูลสำคัญระดับชาติ การเลือกจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ต่างประเทศ ก็มีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะหลุดออกไปโดยที่ไม่ได้รับการยินยอมด้วยเหตุผลว่าไม่มีข้อกฎหมายคุ้มครองข้อมูล

ด้วยความที่หลายองค์กรมีข้อมูลที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหวและไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณชนได้ ทั้งยังมีโอกาสที่คู่แข่งอาจนำข้อมูลไปใช้แข่งขันทางการตลาด เมื่อเป็นเช่นนั้น Local Cloud หรือก็คือผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่มี Data Center อยู่ในประเทศ จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้ทุกองค์กรที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ลดความเสี่ยงจากการที่ข้อมูลหลุดออกไปจากนอกประเทศได้ และการมี Sovereign Cloud ก็จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของตนเอง

นอกจากลดช่องโหว่ทางกฎหมาย เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลให้กับธุรกิจ การใช้คลาวด์ร่วมกับธุรกิจยังช่วยลดต้นทุนทางด้านไอที ไม่ต้องจ่ายค่า License ต่างประเทศ เพราะองค์กรสามารถเลือกปรับลดหรือเพิ่มขนาดจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ได้ตามความเหมาะสมจากการใช้งานจริง ช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไปได้อย่างมาก และที่สำคัญข้อดีของการปรับลดหรือเพิ่มขนาดโครงสร้างคลาวด์ ยังเป็นการรองรับการเติบโตขององค์กรได้ในอนาคต โดยหมดกังวลในเรื่องข้อจำกัดทางโครงสร้างของระบบคลาวด์ได้

ในประเทศไทย องค์กรที่เลือกใช้งานคลาวด์มักจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ โดยจะขอยกตัวอย่างองค์กรในธุรกิจสถาบันการเงินที่ได้มีการใช้งาน Local Cloud ในการเก็บข้อมูล โดยเริ่มต้นตั้งแต่จัดหาอุปกรณ์ทั้ง Hardware, Software รวมถึง Cloud Storage และมีการติดตั้งระบบ OpenStack Cloud Platform และ Cloud Management Software เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลในประเทศบนคลาวด์ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีขององค์กร จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา Legacy System ในกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคาร และปรับตัวจากระบบเก่า สู่ระบบใหม่ที่เป็น Cloud Native ในอนาคต

การมีอธิปไตยทางข้อมูลหรือ Sovereign Cloud ไม่ได้ป้องกันแค่ความเสี่ยงของการรั่วไหลทางข้อมูล แต่ในด้านของไอทียังเป็นการลดต้นทุนทางโครงสร้างในการประมวลผลจัดเก็บข้อมูล เพื่อเพิ่มขีดจำกัดการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยยกระดับความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย

หากองค์กรใดต้องการ Local Cloud ที่นำมาปรับใช้ทางด้านไอทีและการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลขององค์กร สามารถติดต่อสอบถามทาง NIPA Cloud ได้เช่นกัน เพราะเราคือ Sovereign Cloud สัญชาติไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรเดินหน้าในยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ