Tech Knowledge

เลือก DR-Site ที่ใช่สำหรับเรา

Published : April 18, 2018Time : 2 min read

ข้อมูลคือสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรในทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือบริษัทขนาดเล็ก การที่อยู่ๆ ข้อมูลหายหรือระบบไม่พร้อมใช้งานแม้จะแค่แปบเดียวก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับองค์กรได้มากแล้ว ซึ่งมูลค่าความเสียหายส่วนนี้นั้นมากกว่าค่าใช้จ่ายในการทำ DR-Site ป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อนเสียอีก

DR-Site หรือ Disaster Recovery Site เป็น Backup Solution สำรองข้อมูลในกรณีที่ระบบหลักเกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากภัยพิบัติตามธรรมชาติหรือจากฝีมือของมนุษย์ ก็สามารถใช้ข้อมูลที่สำรองไว้มาทำงานต่อได้ทันที ส่วนค่าบริการการทำ DR-Site นั้นก็ไม่ได้แพงมากอย่างที่ใครหลายคนคิดอีกด้วย

ทำความรู้จักก่อนนำมาใช้งาน

ประเภทของ DR-Site มีอยู่ 3 แบบ โดยแบ่งตามรูปแบบการทำงาน ดังนี้

  1. Hot Site เป็น Site ที่ออกแบบ Software และ Hardware ให้เหมือนกับของระบบหลักที่ใช้งานอยู่ ซึ่ง Hot Site จะมีการ Backup ข้อมูลของระบบหลักตลอดเวลา ในกรณีที่ระบบหลักเกิด Downtime ตัว Hot Site นี้จะเข้ามาทำงานแทนทันที เพื่อให้ User ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด แต่แน่นอนว่าก็มีค่าบริการสูงที่สุดในกลุ่ม DR-Site ด้วยเช่นกัน

  2. Cold Site เป็นระบบสำรองที่มีการ Backup ระบบเอาไว้บ้าง แต่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน ซึ่งการจะเปิดใช้งานแต่ละครั้งต้องมีทีมผู้ชำนาญการเข้ามาดูแลและตั้งค่าต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นจึงกินเวลามาก แต่ก็มีข้อดี คือ ค่าบริการราคาถูกที่สุดในกลุ่ม DR-Site

  3. Warm Site เป็นตัวเลือกที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Hot กับ Cold Site กล่าวคือ Warm Site จะมีการ Backup ข้อมูลและมีอุปกรณ์ Server ติดตั้งเอาไว้ระดับหนึ่ง โดยจะสามารถเปิดใช้งานได้เร็วกว่า Cold Site แต่ต้องมีการอัพเดทระบบให้เหมือนกับระบบหลักที่เกิด Downtime ก่อนจึงจะใช้งานได้ ในส่วนของราคาก็จะแพงกว่า Cold site แต่ไม่ถึงระดับ Hot Site

เลือก DR-Site ให้เหมาะกับองค์กร

ด้วยความที่ DR-Site มีให้เลือกถึง 3 แบบ ตาม Solution การใช้งาน ดังนั้นเพื่อจะประหยัดค่าใช้จ่าย และเลือกใช้ได้เหมาะสมกับงานมากที่สุด จึงควรศึกษาจุดเด่นเฉพาะตัวของ DR-Site แต่ละแบบให้ดี

Hot Site

เป็นระบบที่ดีที่สุดและราคาแพงที่สุดในกลุ่ม DR-Site โดยมันจะมีลักษณะเหมือนกับ Site หลักทุกประการ ระบบจะทำการ Backup ทุกอย่างใน Site หลักมาไว้ที่ Hot Site อยู่ตลอด เมื่อระบบหลักเกิด Downtime ขึ้นมา ก็สามารถนำ Hot Site มาใช้งานแทนได้ทันที

องค์กรที่เหมาะกับ Hot Site คือ องค์กรที่ทำงานในระบบออนไลน์เป็นหลัก มีข้อมูลที่สำคัญต่อระบบการทำงานและรายได้ทั้งหมดของทั้งองค์กร รวมทั้งมี Service สำคัญซึ่งมี User ใช้บริการอยู่จำนวนมาก

Cold Site

เป็น Site สำรองที่ติดตั้งแค่ระบบพื้นฐานพวก HVAC (Heating, Ventilation, Air Conditioning) รวมทั้งระบบไฟฟ้า และ Network connectivity เท่านั้น ไม่มีระบบสำรองในส่วนของข้อมูลต่างๆ จึงต้องใช้เวลาในการเตรียมระบบด้วยทีมผู้ชำนาญการสักระยะหนึ่งถึงจะสามารถใช้งานได้

สำหรับ Cold Site จะเน้นการใช้งานเป็น Site สำรองในกรณีที่ Site หลักมีปัญหาจนใช้งานไม่ได้เป็นเวลานาน เช่น เกิดอัคคีภัยหรือภัยธรรมชาติใหญ่ๆ ที่ทำให้อาคารที่ติดตั้ง Site หลักเสียหายจนใช้งานไม่ได้ ก็จะสามารถนำ Cold Site มาใช้แทนชั่วคราวได้ เพราะฉะนั้นจึงสามารถเลือกสถานที่ติดตั้ง Cold Site ให้อยู่คนละที่กับ Site หลักได้ แต่ด้วยฐานะที่เป็น Site สำรองกรณีเหตุสุดวิสัย การบูตระบบจึงใช้เวลานานที่สุดในกลุ่ม DR-Site และต้องมีการเตรียม Backup มาในอุปกรณ์สำรองข้อมูลอีกด้วย

Warm Site

เป็นระบบที่มีความครอบคลุมรองจาก Hot Site นิดหน่อย โดยจะ Backup ข้อมูลเป็นระยะ ไม่ได้ทำงานอยู่ตลอด และใช้เวลาร่วมชั่วโมงเพื่อเตรียมระบบให้พร้อมกว่าจะสามารถทำงานแทนระบบหลักได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการ Warm Site ก็สามารถติดตั้ง Software หรือ Hardware เอาไว้ล่วงหน้าให้มันทำงานเกือบใกล้เคียง Hot Site ได้เหมือนกัน

Warm Site เหมาะกับบริษัทที่พึ่งพาระบบ Cloud ในการทำงาน และต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจาก Hot Site โดยสามารถรอเวลาการบูตระบบได้ประมาณหนึ่ง

AUTHOR
Author
NIPA Cloud
Writer

We—as a team of Thai people—are assured that Thai cloud is the absolute answer for driving your business in the digital era.