แนวโน้ม Cloud Computing 2026 การผสมผสานระหว่าง AI และ Sovereign Cloud
2025-2026 Cloud Computing Trends & Outlook
แนวโน้มของ Cloud Computing ในปี 2026 จะไม่ได้มุ่งเน้นแค่การย้ายข้อมูลขึ้นไปบนคลาวด์เท่านั้น แต่จะเป็นการใช้คลาวด์เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยมีปัจจัย ดังนี้ :
1. Hybrid และ Multi-Cloud เป็นมาตรฐานใหม่ : องค์กรส่วนใหญ่จะใช้การผสมผสานระหว่าง Public Cloud และ Private Cloud ดังนั้น Hybrid Cloud จึงมีแนวโน้มเป็นโครงสร้างพื้นฐานของคลาวด์ และใช้บริการจากหลายผู้ให้บริการ (Multi-Cloud) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น จะนำมาถูกใช้อย่างแพร่หลาย
2. Edge Computing : การประมวลผลข้อมูลจะย้ายไปที่ปลายทางหรือ Edge มากขึ้น เพื่อลดความหน่วง (Latency) และเพื่อรองรับและตอบสนองแอปพลิเคชั่นแบบเรียลไทม์อีกด้วย
3. Cloud-Native Technologies : เทคโนโลยีอย่าง Serverless, Microservices, Containers และ Kubernetes จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะถูกพัฒนาเพื่อปรับให้แอปพลิเคชั่นทำงานได้เร็วขึ้น
4. Sovereign Cloud & Security : ความต้องการด้านอธิปไตยข้อมูลและความปลอดภัยจะผลักดันให้เกิดการใช้ Sovereign Cloud มากขึ้น โดยเฉพาะในหน่วยงานภาครัฐและอุตสาหกรรมที่มีข้อมูลละเอียดอ่อน ไม่ควรให้ต่างชาติสามารถมีสิทธิขอเข้าถึงได้
5. การเติบโตของ Generative AI และ Agentic AI : คลาวด์จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน AI โดยเฉพาะ Generative AI ที่ต้องใช้พลังประมวลผลจากข้อมูลมหาศาล ผู้ให้บริการคลาวด์มีแนวโน้มพัฒนา "AI-Optimized Infrastructure" และ "AI as a Service" เพื่อให้องค์กรสร้างและปรับใช้โมเดล AI ได้ง่ายขึ้น
อนาคตการผสมผสานระหว่าง AI และ Sovereign Cloud
การผสมผสานระหว่าง AI และ Sovereign Cloud คือการนำข้อมูลและการควบคุมความสามารถของ AI มาใช้ร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะในแง่ของกฎหมาย องค์กรและประเทศต่างๆ จะนำความสามารถด้าน AI ของตนเองบนโครงสร้างคลาวด์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศนั้นๆ โดยมีข้อควรคำนึง ดังนี้
1. ความปลอดภัยและความมั่นคง : AI ต้องใช้ Data จำนวนมหาศาลในการฝึกฝน หากข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของประเทศ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ถูกส่งไปประมวลผลบนคลาวด์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของต่างชาติ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคง
2. การปฏิบัติตามกฎหมาย : การใช้ Sovereign Cloud ทำให้มั่นใจได้ว่าการประมวลผลข้อมูลสำหรับ AI นั้นเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายของประเทศของเราเองอย่างเคร่งครัด
3. การสร้างอธิปไตยทางเทคโนโลยี : หลายประเทศต้องการสร้างความสามารถด้าน AI ของตนเองโดยไม่พึ่งพาผู้ให้บริการจากต่างชาติเพียงอย่างเดียวเมื่อ AI มีส่วนสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจได้ถูกย้ายเข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรแล้ว ความมั่นคงและอธิปไตยด้าน AI ก็จะกลายเป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ
โดยสรุปแล้ว การผสมผสานนี้กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหลายประเทศทั่วโลก Sovereign Cloud จะเป็น Platform ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับ AI ในการทำงานและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ โดยที่ยังคงรักษาอธิปไตยของข้อมูลให้อยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศของเจ้าของนวัตรกรรมอย่างแท้จริง
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้และกำลังมองหา Sovereign Cloud Solution เราคือผู้ให้บริการ Cloud สัญชาติไทยรายแรกที่พัฒนามาจาก OpenSource Software ที่สามารถมอบความเป็นอธิปไตยทางข้อมูลให้กับองค์กรไทยได้อย่างแท้จริง รวมทั้งยังถูกพัฒนามาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้าน IT ให้ดียิ่งขึ้น และมีทีม Support ที่เข้าใจธุรกิจไทย หากสนใจสามารถ ติดต่อเรา NIPA Cloud ได้ที่นี่
We—as a team of Thai people—are assured that Thai cloud is the absolute answer for driving your business in the digital era.