บทบาทของ AI ใน Cloud Computing
AI และ cloud computing เข้ามาเปลี่ยนให้ธุรกิจดำเนินกิจการในรูปแบบของตัวเอง และกำลังขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้ามากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน นอกเหนือจากแค่ด้านไอที ในขณะที่ตลาด cloud computing ก็คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปัจจุบัน เป็น 947 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 และตลาด AI อาจจะเติบโตมากกว่า 5 เท่า เป็น 309 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากที่กล่าวมาข้างต้น หลายคนอาจจะมองได้ว่าตลาดทั้งสองกำลังแข่งขันกัน อย่างไรก็ตามในอีกมุมมอง ตลาด AI และ cloud computing นั้นก็กำลังเกื้อหนุนซึ่งกันและกันอยู่ กล่าวคือ การลงทุนในระบบคลาวด์ช่วยทำให้เกิดการเติบโตของเทคโนโลยีและเกิดการนำ AI มาใช้มากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ยกตัวอย่างการศึกษาของ Deloitte พบว่า บริษัทจำนวน 70% ใช้ประสิทธิภาพของ AI ผ่านซอฟต์แวร์บนคลาวด์ ในขณะที่ 65% สร้างแอปพลิเคชัน AI โดยใช้บริการคลาวด์
การผสมผสานระหว่าง AI และ cloud computing
AI และ cloud computing มีจุดหมายเดียวกัน คือ กระบวนการทำงานอัตโนมัติ (automating process) เช่น data analysis, data management, security เป็นต้น AI มีศักยภาพในการเรียนรู้ machine learning และการตีความข้อมูลเชิงลึกอย่างเป็นกลาง ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเหล่านี้ และยังสามารถทำให้องค์กรประหยัดต้นทุนได้อีกด้วย
การประยุกต์ใช้ AI ใน cloud computing
ในการใช้งาน public cloud นักพัฒนาโปรแกรมหรือ devloper ไม่จำเป็นต้องสร้างหรือจัดการ infrastructure ในการโฮสต์แพลตฟอร์ม AI platform แต่สามารถใช้ configuration และโมเดลเพื่อทดสอบและ deploy แอปพลิเคชัน AI ได้เลย
นอกจากนี้ บริการทั่วไปที่ใช้ AI แต่ไม่จำเป็นต้องใช้โมเดล ML เช่น speech-to-text, analytics และ visualization สามารถพัฒนาได้ด้วยการเรียกใช้ข้อมูลขององค์กรที่อยู่ในคลาวด์
แอปพลิเคชันที่ใช้ AI ในระบบคลาวด์ ได้แก่
- IoT
- Chatbots
- Business Intelligence
- AI-as-a-Service (AIaaS)
- Cognitive cloud computing
ข้อดีของการ deploy AI ในคลาวด์
ประหยัดค่าใช้จ่าย
โดยปกติแล้ว โมเดลที่ใช้ Machine Learning จะทำงานบนเครื่องราคาแพงที่มี GPUs หลายตัวในองค์กร การเปลี่ยนมาทำ virtualization บน public cloud และ private cloud จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการเทสต์หรือ deploy โมเดลเหล่านี้ลดลงอย่างมาก และยังทำให้ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางสามารถขึ้นมาแข่งขันได้มากขึ้นอีกด้วย
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
อัลกอริทึมที่ใช้ AI ต้องใช้เวลาและความพยายามในการดูแลการสร้าง environment ที่ใช้ในส่วนของ testing และ production การจัดการฮาร์ดแวร์ และการจัดเตรียมทรัพยากรฮาร์ดแวร์สำหรับการ operation และการจัดเก็บข้อมูลของ compute การใช้ hybrid cloud หรือ public cloud จะมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว และลดงานที่ซ้ำซ้อนของเจ้าหน้าที่ไอทีได้
ทำให้เป็นอัตโนมัติ
AI cloud computing ยังถูกฝังอยู่ใน infrastructure เพื่อช่วยการทำงานที่ต้องทำซ้ำเป็นประจำทุกวันให้ดำเนินการแบบอัตโนมัติ และปรับปรุงปริมาณงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใน environment ของ hybrid cloud นั้น อุปกรณ์ AI สามารถใช้ตรวจสอบ จัดการ และซ่อมแซมส่วนประกอบของ public and private cloud ได้
วิเคราะห์ข้อมูล
ข้อมูลที่อยู่ในคลาวด์ส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก การนำ AI มาใช้จึงช่วยดึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ง่าย ๆ และช่วยพัฒนาการวิเคราะห์และแดชบอร์ดแบบเนทีฟสำหรับแต่ละแอปพลิเคชันเหล่านี้
จัดการข้อมูล
AI ช่วยในเรื่องของการบริการลูกค้าในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการตลาด, ERP, การจัดการ supply chain โดยการประมวลผลและสร้างข้อมูลแบบเรียลไทม์
อนาคตของ AI cloud computing
Cloud computing เป็นสิ่งที่เพิ่มความสะดวกสบายในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรรมไอที แต่ขณะเดียวกัน การเติบโตของรายได้กลับลดลง นักลงทุนจึงหวังว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ AI จะมาช่วยเสริมประสิทธิภาพของ cloud computing โดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ก็กำลังพยายามใช้ประโยชน์จาก AI ในระบบคลาวด์มากขึ้น
NIPA Cloud องค์กรผู้ให้บริการคลาวด์สัญชาติไทย จึงเปิดให้องค์กรธุรกิจทั้งหลายได้ใช้บริการ NIPA Cloud Space ฟรี 30 วัน ซึ่งเป็นบริการ local public cloud ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง สามารถปรับขนาดทรัพยากรให้เหมาะกับการใช้งานจริงได้ นอกจากนี้ยังมี Availability Zone หลายแห่ง เพื่อรองรับ High Availability (HA) พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คนไทยพร้อมให้บริการความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง