Container & Kubernetes บน Cloud เครื่องมือสำคัญของของการพัฒนาแอปยุคใหม่

Container คือการนำโค้ดแอปพลิเคชันและส่วนประกอบทั้งหมดที่จำเป็นในการทำงาน เช่น Library, Framework, และ File Config มาบรรจุรวมกันเป็นแพ็กเกจเดียวที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระและสอดคล้องกันในทุกสภาพแวดล้อม Container เหมือนตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าทั้งหมดอย่างเรียบร้อย ไม่ว่าตู้จะถูกขนส่งด้วยวิธีใด ภายในตู้ก็ยังมีสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิม ทำให้มั่นใจได้ว่าแอปพลิเคชันจะทำงานได้เหมือนกันเสมอ ไม่ว่านักพัฒนาจะสร้างบนเครื่องของตัวเอง, ทดสอบบนเซิร์ฟเวอร์, หรือนำไปใช้งานจริงบนคลาวด์ก็ตาม

ข้อดีของ Container

1. ลดความซับซ้อน : ทำงานได้เหมือนกันในทุกสภาพแวดล้อม ลดขั้นตอนการเตรียมการ

2. การจัดการทรัพยากร : Container ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า VM เนื่องจากแชร์ระบบปฏิบัติการของเครื่องโฮสต์

3. แยกจากกัน : แต่ละแอปพลิเคชันทำงานในพื้นที่ของตัวเอง ไม่กระทบต่อกัน

Kubernetes หรือ K8s เป็น Open Source จาก Google ที่จะมาช่วยในการจัดการ Container โดยอัตโนมัติ หาก Container คือตู้ที่บรรจุสินค้า Kubernetes ก็เปรียบเสมือนระบบจัดการท่าเรือที่คอยควบคุมการทำงานทั้งหมด โดยจุดเด่นของ Kubernetes มีดังนี้

1. การวางแผนและการจัดการ : Kubernetes จะตัดสินใจว่าควรจะวาง Container แต่ละอันไว้บนเซิร์ฟเวอร์ตัวไหนสั่งให้ระบบทำงานตามที่ต้องการอัตโนมัติ เพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด

2. การปรับขนาดอัตโนมัติ (Auto-Scaling) : เมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น Kubernetes จะสร้าง Container ขึ้นมาใหม่โดยอัตโนมัติเพื่อรองรับโหลดที่เพิ่มขึ้น และจะลดจำนวนลงเมื่อปริมาณงานลดลง

3. ซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ : ทำให้อัปเดตแอปพลิเคชั่นได้โดยไม่ทำให้ระบบหยุดชะงักและ Kubernetes ยังคอย Monitor หากมี Container ทำงานผิดปกติจะทำการสร้างอันใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

4. การกระจายเวิร์คโหลด : แบ่งการทำงานระหว่าง Container เพื่อให้ระบบไม่ล่มและเพิ่ม HA ทำให้ระบบทำงานได้ปกติ

ดังนั้น Kubernetes ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงจัดการ Container เท่านั้น แต่ยังสามารถปรับขนาดอัติโนมัติและซ่อมแซมตัวเองได้ ทำให้เป็นแพลตฟอร์มจัดการ Container ที่ครบวงจรมากที่สุดในขณะนี้

Container เปรียบเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการบรรจุแอปพลิเคชันไว้ หากพูดง่ายๆ Container ไว้ใช้สำหรับการจัดการ Environment ให้ทุกเครื่องสามารถทำงานได้เหมือนกัน ส่วน Kubernetes จะทำหน้าที่จัดการ Container เหล่านั้นทั้งหมดให้ใช้ได้ในสภาพแวดล้อมจริง ทั้ง 2 เทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจสำคัญของ Cloud-Native Development ที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล

ผู้ให้บริการ Cloud ส่วนใหญ่ในปัจจุบันต่างมีบริการที่รองรับ Kubernetes ในรูปแบบ Managed Service ซึ่งหมายความว่าผู้ให้บริการจะดูแลและจัดการส่วนประกอบหลักของ Kubernetes Cluster ให้โดยอัตโนมัติ นี่คือรายชื่อผู้ให้บริการ Cloud และมีบริการ Kubernetes ที่นิยม

1. Google Cloud Platform (GCP) : มีบริการ Google Kubernetes Engine (GKE) หนึ่งในบริการ Kubernetes ที่ดีและได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจาก Kubernetes ถูกพัฒนาขึ้นที่ Google มาก่อน ทำให้ GKE มีความเสถียรและประสิทธิภาพสูง

2. Amazon Web Service (AWS) : มีบริการ Elastic Kubernetes Service (EKS) ที่สามารถผสมผสานกับบริการอื่นๆได้เช่น IAM หรือ AWS Fargate ที่ทำให้รัน Container โดยไม่ผ่านเซิร์ฟเวอร์

3. Microsoft Azure : Azure Kubernetes Service (AKS) ใกล้เคียงกับบริการของ AWS ที่มีการผสมผสานกับบริการอื่นๆของ Azure ได้

4. Digital Ocean : DigitalOcean Kubernetes (DOKS) มีความโดดเด่นที่เรียบร้อยและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักพัฒนา, Start-up และธุรกิจขนาดกลางถึงเล็ก

5. NIPA Cloud : มีบริการ Kubernetes ภายใต้ชื่อ NIPA Cloud Space (NCS) โดยมีจุดเด่นเรื่องความง่ายในการสร้างและจัดการ Kubernetes Cluster ในราคาที่เข้าถึงได้ รวมถึงการรองรับ Data Sovereignty เหมาะสำหรับองค์กรไทยที่ต้องการรักษาข้อมูลไว้ภายในประเทศ

หากบริษัทของท่านกำลังมองหาโซลูชั่น Kubernetes ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้เทคโนโลยี Cloud-native และยังเล็งเห็นความสำคัญของการคงรักษาอธิปไตยของข้อมูลเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในการดำเนินงาน สามารถปรึกษาเราเพิ่มเติมโดย ติดต่อเรา NIPA Cloud ได้ที่นี่