ทำความรู้จัก Private Cloud คืออะไร
Private Cloud คืออะไร
Private Cloud คือโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ที่ถูกเก็บไว้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวหรือถูกสร้างขึ้นสำหรับองค์กรเดียว โดย Private Cloud ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมการจัดการข้อมูล ทรัพยากร และการเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจโฮสต์ไว้ในศูนย์ข้อมูลขององค์กรเองหรือใช้ผู้ให้บริการภายนอกในการดูแลแต่กำหนดให้ใช้งานเฉพาะองค์กรนั้น ๆ
Private Cloud มักถูกใช้งานโดยองค์กรที่มีความต้องการเฉพาะด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว หรือข้อกำหนดทางกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ควบคุมได้เองทุกกระบวนการ
ความสำคัญของ Private Cloud ในปัจจุบัน
1. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
Private Cloud ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ในระดับสูง โดยองค์กรสามารถควบคุมทุกขั้นตอนของการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลได้เอง ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการปกป้องข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางการค้า
2. การควบคุมทรัพยากรและประสิทธิภาพ
องค์กรสามารถควบคุมการใช้ทรัพยากรของตนเองได้เต็มที่ เช่น การจัดการเซิร์ฟเวอร์, การประมวลผล, และการจัดเก็บข้อมูล โดยไม่ต้องแชร์ทรัพยากรร่วมกับองค์กรอื่น ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพของการใช้งานสูงขึ้น และลดความเสี่ยงจากการมีผู้ใช้งานอื่นเข้ามาร่วมใช้
3. ลดความเสี่ยงด้านไซเบอร์
Private Cloud ลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามด้านไซเบอร์ได้ดีกว่า Public Cloud เนื่องจากไม่มีการแชร์ทรัพยากรร่วมกับผู้ใช้ภายนอก และสามารถสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตรงตามข้อกำหนดขององค์กรเองได้
4. รองรับการทำงานร่วมกับ Hybrid Cloud
Private Cloud ยังสามารถทำงานร่วมกับ Public Cloud เพื่อสร้าง Hybrid Cloud ที่มีทั้งความปลอดภัยสูงและความยืดหยุ่น ทำให้องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญบน Private Cloud และใช้ Public Cloud สำหรับการประมวลผลที่ต้องการความรวดเร็ว
Private cloud มีหลักการทำงานอย่างไร
Private Cloud ทำงานบนระบบคลาวด์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในองค์กรเดียว โดยแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลักคือ On-Premises Private Cloud และ Hosted Private Cloud
1. On-Premises Private Cloud
องค์กรสร้างและจัดการ Private Cloud ในศูนย์ข้อมูลภายในองค์กรเอง ซึ่งต้องลงทุนในการติดตั้งและดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ทั้งหมด การจัดการทรัพยากรทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กรโดยเฉพาะ
2. Hosted Private Cloud
Private Cloud นี้ถูกโฮสต์โดยผู้ให้บริการคลาวด์ภายนอก เช่น NIPA Cloud, AWS, หรือ Microsoft Azure โดยผู้ให้บริการจะจัดการทรัพยากร ฮาร์ดแวร์ และการดูแลรักษาทั้งหมด แต่ออกแบบระบบให้เฉพาะองค์กรนั้น ๆ เท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นแบบ On-Premises หรือ Hosted ระบบ Private Cloud จะสร้าง Virtual Machines (VMs)เป็นขององค์กรนั้นเท่านั้น เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลและการจัดการเป็นไปอย่างปลอดภัย และไม่มีการแชร์ทรัพยากรกับลูกค้ารายอื่น ข้อมูลและแอปพลิเคชันทั้งหมดได้รับการจัดการอย่างมีระเบียบและควบคุมการเข้าถึงได้เต็มที่
ประโยชน์ของ Private Cloud
การใช้ Private Cloud มอบประโยชน์ที่สำคัญหลายประการแก่องค์กร โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย การควบคุม และประสิทธิภาพ มาดูประโยชน์หลัก ๆ ของ Private Cloud กัน
1. ด้านความปลอดภัย
Private Cloud มีการควบคุมระบบการเข้าถึงและความปลอดภัยที่ดีกว่า เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บในเซิร์ฟเวอร์เฉพาะขององค์กร ทำให้ลดความเสี่ยงในการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลภายนอก
2. การควบคุมทรัพยากร
ผู้ใช้งานสามารถจัดการและควบคุมทรัพยากรได้อย่างอิสระเช่น เพิ่มหรือลดขนาดของเซิร์ฟเวอร์ หรือปรับแต่งทรัพยากรของ Virtual Machines ได้เองตามต้องการ ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานภายในทีมสะดวกขึ้น
3. ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
การใช้ Private Cloud ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มาใช้เอง นอกจากนั้นการใช้ Private Cloud สามารถเลือกบริการและเช่าพื้นที่ตามที่ต้องการได้
4. ระบบการสำรองข้อมูลและกู้คืน
ด้วยการใช้งาน Private Cloud องค์กรสามารถกำหนดระบบสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลตามที่ต้องการและช่วยให้องค์กรสามารถกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีเกิดปัญหาระหว่างการใช้งาน
5. ลด Latency
เนื่องจาก Private Cloud มักจะตั้งอยู่ใกล้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ทำให้ลดปัญหาการเชื่อมต่อและเวลาในการตอบสนอง เมื่อเปรียบเทียบกับ Public Cloud
ความแตกต่างของ Private Cloud กับ Public Cloud และ Hybrid Cloud
องค์กรสามารถเลือกใช้บริการคลาวด์หลายรูปแบบตามความต้องการขององค์กร โดยที่ Private Cloud, Public Cloud และ Hybrid Cloud มีจุดเด่นและความแตกต่างในแง่ของการควบคุม ความปลอดภัย และความยืดหยุ่น วันนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับการใช้งานในลักษณะใดบ้าง
Private Cloud เทียบกับ Public Cloud
Private Cloud
Private Cloud มีการเข้าถึงออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะสำหรับองค์กรเดียว ไม่ว่าจะเป็นการตั้งระบบคลาวด์ภายในศูนย์ข้อมูลขององค์กร (On-Premises) หรือให้บริการโดยผู้ให้บริการภายนอก โดยที่ Private Cloud มีความปลอดภัยสูง มีการเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว และข้อมูลจะไม่ถูกแชร์กับบุคคลภายนอก นอกจากนั้นมีการปรับแต่งที่อิสระ องค์กรสามารถปรับแต่งระบบให้ตรงตามความต้องการได้อย่างเต็มที่ แต่ Private Cloud มักจะมีต้นทุนสูงกว่าการใช้ Public Cloud เนื่องจากต้องลงทุนในโครงสร้างและการบำรุงรักษา
เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง การควบคุมการทำงานของระบบ และมีข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น ธนาคาร หน่วยงานรัฐบาล
Public Cloud
Public Cloud เป็นบริการที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยข้อมูลและทรัพยากรจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์สาธารณะ โดยที่ Public Cloud มีความปลอดภัยที่เหมาะสม แต่ไม่สามารถเทียบได้กับ Private Cloud ในแง่ของการควบคุมข้อมูล และมีต้นทุนต่ำใช้บริการแบบจ่ายตามการใช้งาน (Pay-as-you-go) รวมถึงมีความยืดหยุนสูงสามารถปรับขนาดทรัพยากรได้ตามต้องการ
เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง หรือองค์กรที่ต้องการโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานง่าย
Private Cloud เทียบกับ Hybrid cloud
ในการใช้ระบบคลาวด์เพื่อตอบโจทย์การจัดการข้อมูลและทรัพยากรในองค์กร Private Cloud และ Hybrid Cloud เป็นสองทางเลือกที่ได้รับความนิยม แต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป โดย Private Cloud จะมุ่งเน้นการควบคุมและความปลอดภัยสูงสุด ในขณะที่ Hybrid Cloud ผสมผสานข้อดีของทั้ง Private และ Public Cloud เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
Hybrid Cloud
Hybrid Cloud คือการผสานรวมระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud ซึ่งองค์กรสามารถเลือกเก็บข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยสูงไว้ใน Private Cloud และใช้ Public Cloud สำหรับประมวลผลและการปรับขยายทรัพยากรได้ง่าย นอกจากนั้น Hybrid Cloud ช่วยให้การขยายระบบเป็นไปอย่างรวดเร็วและคล่องตัว ทำให้สามารถรองรับการเติบโตได้ดี
เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ใช้ประโยชน์จาก Public Cloud เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและมี Private Cloud สำหรับข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัย
ทำไมถึงควรเลือกใช้ NIPA Cloud Enterprise สำหรับ Private Cloud
การเลือกใช้ Private Cloud นั้นมีความสำคัญสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะองค์กรที่ต้องความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลสูง โดย NIPA Cloud Enterprise ซึ่งมีบริการ Private Cloud แบบครบครับระดับองค์กรที่พัฒนาขึ้นโดย NIPA Cloud ผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำในประเทศไทย
1. ความปลอดภัยสูงและมาตรฐานสากล
NIPA Cloud Enterprise มีมาตรการความปลอดภัยระดับสูงที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด เช่น ธนาคาร หน่วยงานรัฐบาล
2. การควบคุมการเข้าถึงและการจัดการอย่างสมบูรณ์
องค์กรสามารถปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับความต้องการด้อย่างเต็มที่ ทั้งการจัดการเซิร์ฟเวอร์ การควบคุมการเข้าถึง การสร้าง Virtual Machines และทรัพยากรอื่น ๆ
3. ความยืดหยุ่นและการปรับขยายง่าย
การจัดเก็บข้อมูลบน NIPA Cloud มาพร้อมมาตรฐานสากล และมีความปลอดภัยระดับสูง ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร
4. ประสิทธิภาพสูงในระดับองค์กร
NIPA Cloud Enterprise ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายขององค์กรในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่
NIPA Cloud Enterprise เป็น Private Cloud Solution ที่ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง ความยืดหยุ่นในการปรับขยาย และการควบคุมการจัดการทรัพยากรแบบครบวงจร ด้วยการบริการที่รวดเร็ว สนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศ และระบบโฮสต์ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ทำให้ NIPA Cloud Enterprise เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรในทุกขนาดที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระดับสูงสุด
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้และกำลังมองหาโซลูชันคลาวด์ NIPA Cloud เราคือผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกในประเทศไทย ที่ให้บริการ Cloud Solution ให้กับองค์กรเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านไอทีให้ดียิ่งขึ้น หากสนใจระบบคลาวด์สามารถ ติดต่อเรา NIPA Cloud ได้ที่นี่
We—as a team of Thai people—are assured that Thai cloud is the absolute answer for driving your business in the digital era.